tag:blogger.com,1999:blog-30317146655058458662024-02-20T04:24:39.556-08:00จิระวัฒน์ กฤษณาติดต่อ 083-3344099นาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.comBlogger7125tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-43926359389509172322011-07-03T08:19:00.000-07:002011-07-03T08:19:02.797-07:00ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร<div style="text-align: center;"></div><div style="text-align: center;"><strong>ประวัตินายกหญิงคนที่ 1 ของไทย 16 ของโลก</strong></div><div style="text-align: center;"></div><div style="text-align: center;"><img alt="คลิกชมภาพต่อไป" class="showed-pic" src="http://p.s1sf.com/ns/0/wb/i/ui/204/1023298/article-1062--qwesaddasq_1305543786.jpg;r:width=580;static:p_s1sf_ns_0;file:dc111a.jpg" title="คลิกชมภาพต่อไป" /><br />
<br />
</div><span style="font-weight: bold;">ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย? </span><br />
<br />
เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ1ของพรรคเพื่อไทย สมใจนายห้างดูไบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายสุดที่เลิฟเป็นอย่างยิ่ง ส่วนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย หรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคต<br />
<br />
โดยประวัติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น เกิดเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2510 ชื่อเล่นปู ก่อนหน้านี้หลายคนทราบเพียงว่าเธอคือ ผู้สนับสนุนทางด้านการเงินของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ และกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด โดยการรับช่วงต่อสืบทอดกิจการของครอบครัว หลังจากสมาชิกคนอื่นๆในครอบครัวก้าวเข้าสู่สนามการเมือง เป็นน้องสาวคนสุดท้องของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี<br />
<br />
ด้านชีวิตครอบครัวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวน 9 คน ของ นายเลิศ และนางยินดี ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ สมรสโดยไม่ได้จดทะเบียนกับ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร อดีตผู้บริหารในเครือบริษัท ซีพี และกรรมการผู้อำนวยการบริษัท เอ็ม ลิงก์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จำกัด ของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวคนที่ 5 ในตระกูลชินวัตรเมื่อ พ.ศ. 2538 โดย มีบุตรชายนอกสมรสหนึ่งคน ชื่อ ด.ช. ศุภเสกข์ หรือ น้องไปป์ <br />
<br />
ส่วนเรื่องการศึกษา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จบการศึกษาปริญญาตรี จาก คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2531 และปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท สหรัฐอเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2533<br />
<br />
หลังสำเร็จการศึกษาแล้ว การทำงานได้เข้าทำงานที่ บริษัท ชินวัตร ไดเร็กทอรี่ส์ จำกัด และได้รับการเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว จนได้รับการแต่งตั้ง เป็นกรรมการผู้อำนวยการ ของเอไอเอส เมื่อ พ.ศ. 2545<br />
<br />
แต่หลังจาก ตระกูลชินวัตรและดามาพงศ์ ขายหุ้นกลุ่มบริษัทชินคอร์ป ให้แก่ เทมาเส็ก โฮลดิ้งส์ ของรัฐบาลสิงคโปร์ ยิ่งลักษณ์ ได้ลาออกจากตำแหน่งในเอไอเอส โดยยังดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท จำกัด เพียงตำแหน่งเดียว โดยก่อนหน้านั้นเธอได้ขายหุ้นที่ถืออยู่ในมือทั้งหมด เพื่อทำกำไรออกไปก่อน ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. 2548 ปัจจุบัน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่ง กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม<br />
<br />
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้ ด้วยฐานะน้องสาวแท้ๆ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถือว่ามีภาษีเหนือกว่าคนอื่นอยู่หลายขุม และพรรคเพื่อไทยก็คงจะชนะเลือกตั้งอย่างที่หลายๆ คนคาดการณ์ล่วงหน้าได้ แต่พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นรัฐบาล และประเทศไทยจะมีนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ที่มีชื่อว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่เป็นเรื่องที่คาดเดายากยิ่ง อย่าลืมว่าเลือกตั้งครั้งที่แล้วพรรคเพื่อไทยก็กำชัยชนะ แต่ไม่สามารถชิงธงจัดตั้งรัฐบาลได้!!!<br />
<br />
<span style="font-size: medium; font-weight: bold;">ประวัติยิ่งลักษณ์ ชินวัตร</span><br />
<br />
ชื่อ-นามสกุล : ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร<br />
<br />
วันเดือนปีเกิด : 21 มิถุนายน 2510<br />
<br />
ชื่อเล่น : ปู<br />
<br />
บิดา : นายเลิศ ชินวัตร (ถึงแก่กรรม 23 ต.ค.2540 ศาลา 7 วัดมกุฎกษัตริยาราม)<br />
<br />
มารดา : นางยินดี ระมิงค์วงศ์ (ถึงแก่กรรม)<br />
<br />
คู่สมรส : นายอนุสรณ์ อมรฉัตร<br />
<br />
บุตร : ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (ไปป์)<br />
<br />
ถิ่นกำเนิด : จังหวัดเชียงใหม่<br />
<br />
ประวัติครอบครัว :<br />
<br />
เป็นบุตรคนสุดท้อง ในจำนวนพี่น้อง 10 คน ของนายเลิศ และนางยินดี ชินวัตร (เสียชีวิตทั้งคู่)<br />
<br />
ชื่อพี่น้อง<br />
<br />
1. นางเยาวลักษณ์ ชินวัตร (เสียชีวิต) สมรสกับพ.อ.(พิเศษ) ศุภฤกษ์ คล่องคำนวณการ (หย่า) มีธิดา 2 คน<br />
น.ส.ปณิตา คล่องคำนวณการ<br />
น.ส.นัทชฤทัย คล่องคำนวณการ<br />
<br />
2. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สมรสกับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ (หย่า14 พ.ย.2551 ใช้นามสกุลเดิม ดามาพงศ์ 8 ธ.ค.2551) (บุตรของ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์) มีบุตร-ธิดา 3 คน<br />
นายพานทองแท้ ชินวัตร (โอ๊ค)<br />
น.ส.พินทองทา ชินวัตร (เอม)<br />
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อิ้ง)<br />
<br />
3. นางเยาวเรศ ชินวัตร สมรสกับนายวีระชัย วงศ์นภาจันทร์ (หย่า) มีบุตร-ธิดา 3 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 1 คน<br />
น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ (แซน)<br />
นายรัตนะ วงศ์นภาจันทร์(ซัน)<br />
นายธนวัต วงศ์นภาจันทร์(ซูน)<br />
<br />
4. นางปิยนุช ลิ้มพัฒนาชาติ<br />
<br />
5. นายอุดร ชินวัตร (เสียชีวิต)<br />
<br />
6. นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ (แดง) สมรสกับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ มีบุตร-ธิดา 3 คน<br />
นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ (เชน)<br />
น.ส.ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์(เชียร์)<br />
น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ (เชอรี่)<br />
<br />
7. นายพายัพ ชินวัตร สมรสกับพอฤทัย มีบุตรชาย 4 คน<br />
นายฤภพ ชินวัตร (ไนท์)<br />
นายพิรุณ ชินวัตร (นิกกี้)<br />
นายพอพงษ์ ชินวัตร(ต๋อง)<br />
นายพีรพัฒน์ ชินวัตร<br />
<br />
8. นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล (แป๋ว) เดิมชื่อ เยาวมาลย์ สมรสกับ นพ.สมชัย โกวิทเจริญกุล มีธิดา 2 คน<br />
<br />
9. นายทัศนีย์ ชินวัตร (แป๋ม) เสียชีวิต<br />
<br />
10. นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ปู) สมรสกับนายอนุสรณ์ อมรฉัตร (ป๊อป) ปี 2538 มีบุตรชาย 1 คน<br />
ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร (ไปป์) เกิดเมื่อปี 2545<br />
<br />
<br />
ประวัติการศึกษา :<br />
<br />
2533 : ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเคนทักกีสเตท สหรัฐอเมริกา<br />
2531 : ปริญญาตรี จาก คณะรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่<br />
<br />
<br />
การทำงาน และตำแหน่งหน้าที่ :<br />
<br />
- กรรมการและเลขานุการ มูลนิธิไทยคม<br />
- กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอสซี แอสเซท<br />
2545 : กรรมการผู้อำนวยการ ของ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (เอไอเอส)นาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-66556524632376212932011-04-19T19:48:00.000-07:002011-04-19T19:48:29.270-07:00พรบ.อินเตอร์เน็ต<span style="color: black;"><strong>พรบ. คอมพิวเตอร์ 2550 ทุกคนที่ใช้คอมพิวเตอร์ต้องรู้ </strong></span><br />
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมาย ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้<br />
<strong>มาตรา ๑</strong> พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐” <br />
<strong>มาตรา ๒</strong> พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป<br />
<strong>มาตรา ๓</strong> ในพระราชบัญญัตินี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ<br />
“ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย<br />
“ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น<br />
“ผู้ให้บริการ” หมายความว่า<br />
(๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น<br />
(๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น<br />
“ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม<br />
“พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้<br />
“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้<br />
<strong>มาตรา ๔</strong> ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้<br />
หมวด ๑<br />
ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์<br />
<strong>มาตรา ๕</strong> ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๖</strong> ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๗</strong> ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๘</strong> ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๙</strong> ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๑๑</strong> ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท<br />
<strong>มาตรา ๑๒</strong> ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐<br />
(๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลัง และไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท<br />
(๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท<br />
ถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี<br />
<strong>มาตรา ๑๓</strong> ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๑๔</strong> ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
(๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน<br />
(๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน<br />
(๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา<br />
(๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้<br />
(๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔)<br />
<strong>มาตรา ๑๕</strong> ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔<br />
<strong>มาตรา ๑๖</strong> ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือ<br />
ปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย<br />
<strong>มาตรา ๑๗</strong> ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ<br />
(๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ<br />
(๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ<br />
จะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร<br />
หมวด ๒<br />
พนักงานเจ้าหน้าที่<br />
<strong>มาตรา ๑๘</strong> ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด<br />
(๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้<br />
(๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง<br />
(๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่<br />
(๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่<br />
(๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่<br />
(๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้<br />
(๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว<br />
(๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้<br />
มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ<br />
(๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็วเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือ<br />
ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ<br />
(๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐานการทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง<br />
มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้<br />
<strong>มาตรา ๒๑</strong> ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลายหรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา<br />
<strong>มาตรา ๒๒</strong> ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่<br />
โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๒๓</strong> พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๒๔</strong> ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ<br />
<strong>มาตรา ๒๕</strong> ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น<br />
<strong>มาตรา ๒๖</strong> ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวัน แต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ นับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา<br />
ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท<br />
<strong>มาตรา ๒๗</strong> ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง<br />
<strong>มาตรา ๒๘</strong> การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด<br />
<strong>มาตรา ๒๙</strong> ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีมีอำนาจ ร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง<br />
<strong>มาตรา ๓๐</strong> ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา<br />
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ<br />
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์<br />
นายกรัฐมนตรี<br />
<br />
<strong>หมายเหตุ</strong> :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญ ของการประกอบกิจการ และการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่น ในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ หรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้<br />
<br />
ที่มา http://www.cowboythai.com/forum/index.php?topic=1443.msg9206;topicseenนาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-54594337619543281452011-03-28T21:57:00.001-07:002011-03-28T21:57:50.320-07:00การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย Wire Internet<div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 18pt;">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใช้สาย (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 18pt;">Wire Internet)</span></b></div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">1. <span lang="TH">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล (</span>Individual Connection)</span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตรายบุคคล คือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากที่บ้าน (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">Home user) <span lang="TH">ซึ่งยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้ต้องสมัครเป็นสมาชิกกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก่อน จากนั้นจะได้เบอร์โทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต รหัสผู้ใช้ (</span>User name) <span lang="TH">และรหัสผ่าน (</span>Password) <span lang="TH">ผู้ใช้จะเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตได้โดยใช้โมเด็มที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้หมุนไปยังหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต จากนั้นจึงสามารถใช้ งานอินเทอร์เน็ตได้ ดังรูป</span></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><br />
</div><div align="center" class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1052" style="height: 182.25pt; width: 335.25pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/pic_lesson/c6_2.JPG" src="page_4.files/image002.jpg"></imagedata></shape></span></div><div class="MsoNormal"><br />
</div><div class="MsoNormal" style="margin-left: 36pt; text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">องค์ประกอบของการใช้อินเทอร์เน็ตรายบุคคล</span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1040" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>1. <span lang="TH">โทรศัพท์</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1041" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>2. <span lang="TH">เครื่องคอมพิวเตอร์</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1042" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>3. <span lang="TH">ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ซึ่งจะให้เบอร์โทรศัพท์ รหัสผู้ใช้และรหัสผ่าน</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1043" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>4. <span lang="TH">โมเด็ม (</span>Modem)</span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">โมเด็ม</span></b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการแปลงสัญญาณ เนื่องจากสัญญาณในคอมพิวเตอร์เป็นสัญญาณดิจิทัล</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> (Digital) <span lang="TH">แต่สัญญาณเสียงในระบบโทรศัพท์เป็นสัญญาณอนาล็อก (</span>Analog) <span lang="TH">ดังนั้นเมื่อต้องการเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ตจึงต้องใช้โมเด็มเพื่อเป็นอุปกรณ์ในการแปลงสัญญาณดิจิทัลจากเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เป็นสัญญาณอนาล็อกตามสายโทรศัพท์ และแปลงกลับจากสัญญาณอนาล็อกเป็นสัญญาณดิจิทัล เมื่อถึงปลายทาง</span></span></div><div class="MsoNormal"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">ความเร็วของโมเด็มมีหน่วยเป็น บิตต่อวินาที</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> (bit per second : bps) <span lang="TH">หมายความว่า ในหนึ่งวินาที จะมีข้อมูลถูกส่งออกไป หรือรับเข้ามากี่บิต เช่น โมเด็มที่มีความเร็ว </span>56 Kpbs <span lang="TH">จะสามารถ รับ-ส่งข้อมูลได้</span> 56 <span lang="TH">กิโลบิตในหนึ่งวินาที</span></span></div><div class="MsoNormal" style="margin-left: 36pt; text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">โมเด็มสามารถแบ่งได้ </span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">3 <span lang="TH">ประเภท คือ</span></span></div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1044" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>1. <span lang="TH">โมเด็มแบบติดตั้งภายนอก (</span>External modem)</span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">เป็นโมเด็มที่ติดตั้งกับคอมพิวเตอร์ภายนอก สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เพราะในปัจจุบันการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์จะผ่าน </span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">USB <span lang="TH">พอร์ต (</span>Universal Serial Bus) <span lang="TH">ซึ่งเป็นพอร์ตที่นิยมใช้กันมาก ราคาของโมเด็มภายนอกไม่สูงมากนัก แต่จะยังมีราคาสูงกว่าโมเด็มแบบติดตั้งภายใน รูปที่ </span>6.3 <span lang="TH">แสดงโมเด็มภายนอก</span></span></div><div class="MsoNormal"><br />
</div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1045" style="height: 81.75pt; width: 99pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/pic_lesson/c6_3.JPG" src="page_4.files/image003.jpg"></imagedata></shape></span></div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><br />
</div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1046" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape><b>2. <span lang="TH">โมเด็มแบบติดตั้งภายใน (</span>Internal modem)</b></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">เป็นโมเด็มที่เป็นการ์ดคอมพิวเตอร์ที่ต้องติดตั้งเข้าไปกับแผงวงจรหลักหรือเมนบอร์ด</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> (main board) <span lang="TH">ของเครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็มประเภทนี้จะมีราคาถูกว่าโมเด็มแบบติดตั้งภายนอก เวลาติดตั้งต้องอาศัยความชำนาญในการเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ และติดตั้งไปกับแผงวงจรหลัก</span></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><br />
</div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1047" style="height: 81.75pt; width: 136.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/pic_lesson/c6_4.JPG" src="page_4.files/image004.jpg"></imagedata></shape></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">3. <span lang="TH">โมเด็มสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (</span>Note Book Computer)</span></b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> <span lang="TH">อาจเรียกสั้นๆว่า</span> PCMCIA modem</span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><br />
</div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1048" style="height: 83.25pt; width: 83.25pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/pic_lesson/c6_5.JPG" src="page_4.files/image005.jpg"></imagedata></shape></span></div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><br />
</div><div class="MsoNormal"><br />
</div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">2. <span lang="TH">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กร (</span>Corporate Connection)</span></b></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1049" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape><span lang="TH">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบองค์กรนี้จะพบได้ทั่วไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้จะมีเครือข่ายท้องถิ่น (</span>Local Area Network : LAN) <span lang="TH">เป็นของตัวเอง ซึ่งเครือข่าย </span>LAN <span lang="TH">นี้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ผ่านสายเช่า (</span>Leased line) <span lang="TH">ดังนั้น บุคลากรในหน่วยงานจึงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านระบบ</span> LAN <span lang="TH">ไม่มีการสร้างการเชื่อมต่อ (</span>Connection) <span lang="TH">เหมือนผู้ใช้รายบุคคลที่ยังต้องอาศัยคู่สายโทรศัพท์ในการเข้าสู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ต</span></span></div><div class="MsoNormal"><br />
</div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1050" style="height: 243.75pt; width: 357.75pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/pic_lesson/c6_6.JPG" src="page_4.files/image006.jpg"></imagedata></shape></span></div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: right;"><br />
</div><div align="center" class="MsoNormal" style="text-align: center;"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 18pt;">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สาย (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 18pt;">Wireless Internet)</span></b></div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">1. <span lang="TH">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายผ่านเครื่องโทรศัพท์บ้านเคลื่อนที่ </span>PCT</span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">เป็นการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">Note book) <span lang="TH">และคอมพิวเตอร์แบบพกพา (</span>Pocket PC) <span lang="TH">ผู้ใช้จะต้องมี โมเด็ม ชนิด </span>PCMCIA <span lang="TH">ของ </span>PCT <span lang="TH">ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้อินเทอร์เน็ตไร้ได้ ในเขตกรุงเทพ และปริมณฑลได้</span></span></div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">2. <span lang="TH">การใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือโดยตรง (</span>Mobile Internet)</span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">1. WAP (Wireless Application Protocol) <span lang="TH">เป็นโปรโตคอลมาตรฐานของอุปกรณ์ไร้สายที่ใช้งานบนอินเทอร์เน็ต ใช้ภาษา </span>WML (Wireless Markup Language) <span lang="TH">ในการพัฒนาขึ้นมา แทนการใช้ภาษา </span>HTML (Hypertext markup Language) <span lang="TH">ที่พบใน </span>www <span lang="TH">โทรศัพท์มือถือปัจจุบัน หลายๆยี่ห้อ จะสนับสนุนการใช้ </span>WAP <span lang="TH">เพื่อท่องอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่</span> 9.6 kbps <span lang="TH">และการใช้ </span>WAP <span lang="TH">ท่องอินเทอร์เน็ตนั้น จะมีการคิดอัตราค่าบริการเป็นนาทีซึ่งยังมีราคาแพง</span></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">2. GPRS (General Packet Radio Service) <span lang="TH">เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้โทรศัพท์มือถือสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยความเร็วสูง และสามารถส่งข้อมูลได้ในรูปแบบของมัลติมีเดีย ซึ่งประกอบด้วย ข้อความ ภาพกราฟิก เสียง และวีดิโอ ความเร็วในการรับส่งข้อมูลด้วยโทรศัพท์ที่สนับสนุน </span>GPRS <span lang="TH">อยู่ที่ </span>40 kbps <span lang="TH">ซึ่งใกล้เคียงกับโมเด็มมาตรฐานซึ่งมีความเร็ว </span>56 kbps <span lang="TH">อัตราค่าใช้บริการคิดตามปริมาณข้อมูลที่รับ-ส่ง ตามจริง ดังนั้นจึงทำให้ประหยัดกว่าการใช้ </span>WAP <span lang="TH">และยังสื่อสารได้รวดเร็วขึ้นด้วย</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1051" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>3. <span lang="TH">โทรศัพท์ระบบ</span> CDMA (Code Division Multiple Access) <span lang="TH">ระบบ </span>CDMA <span lang="TH">นั้น สามารถรองรับการสื่อสารไร้สายความเร็วสูงได้เป็นอย่างดี โดยสามารถทำการรับส่งข้อมูลได้สูงสุด </span>153 Kbps <span lang="TH">ซึ่งมากกว่าโมเด็มที่ใช้กับโทรศัพท์ตามบ้านที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้เพียง </span>56 kbps <span lang="TH">นอกจากนี้ ระบบ </span>CDMA <span lang="TH">ยังสนับสนุนการส่งข้อมูลระบบมัลติมีเดียได้ด้วย</span></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">4. <span lang="TH">เทคโนโลยี บลูทูธ (</span>Bluetooth Technology) <span lang="TH">เทคโนโลยีบลูทูธ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับการสื่อสารแบบไร้สาย โดยใช้หลักการการส่งคลื่นวิทยุ ที่อยู่ในย่านความถี่ระหว่าง </span>2.4 - 2.4 GHz <span lang="TH">ในปัจจุบันนี้ได้มีการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆที่ใช้เทคโนโลยีไร้สายบลูธูทเพื่อใช้ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายๆชนิด เช่น โทรศัพท์เคลื่อนที่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค คอมพิวเตอร์พ็อคเก็ตพีซี</span></span></div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">3. <span lang="TH">การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตด้วยโน้ตบุ๊ก(</span>Note book) <span lang="TH">และ เครื่องปาล์ม (</span>Palm) <span lang="TH">ผ่าน โทรศัพท์มือถือที่สนับสนุนระบบ </span>GPRS</span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">โทรศัพท์มือถือที่สนับสนุน </span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">GPRS <span lang="TH">จะทำหน้าที่เสมือนเป็นโมเด็มให้กับอุปกรณ์ที่นำมาพ่วงต่อ ไม่ว่าจะเป็น </span>Note Book <span lang="TH">หรือ </span>Palm <span lang="TH">และในปัจจุบันบริษัทที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้มีการผลิต </span>SIM card <span lang="TH">ที่เป็น </span>Internet SIM <span lang="TH">สำหรับโทรศัพท์มือถือเพื่อให้สามารถติดต่อกับอินเทอร์เน็ตได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น</span></span></div><div align="right"><a href="http://vclass.mgt.psu.ac.th/~465-302/2006-2/Assignment-02/BPA_29_08_2/page_4.htm#การทำงานของอินเทอร์เน็ต">TOP</a></div>นาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-36596657309163145942011-03-28T21:53:00.001-07:002011-03-28T21:53:48.989-07:00การทำงานของอินเทอร์เน็ต<div align="center" class="MsoNormal"><br />
</div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">การสื่อสารข้อมูลด้วยคอมพิวเตอร์จะมีโปรโตคอล (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">Protocol) <span lang="TH">ซึ่งเป็นระเบียบวิธีการสื่อสารที่เป็นมาตรฐานของการเชื่อมต่อกำหนดไว้ โปรโตคอลที่เป็นมาตรฐานสำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต คือ </span>TCP/IP (Transmission Control Protocol/Internet Protocol)</span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shapetype coordsize="21600,21600" filled="f" id="_x0000_t75" o:preferrelative="t" o:spt="75" path=" m@4@5 l@4@11@9@11@9@5 xe" stroked="f"><stroke joinstyle="miter"></stroke><formulas><f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0 "></f><f eqn="sum @0 1 0 "></f><f eqn="sum 0 0 @1 "></f><f eqn="prod @2 1 2 "></f><f eqn="prod @3 21600 pixelWidth "></f><f eqn="prod @3 21600 pixelHeight "></f><f eqn="sum @0 0 1 "></f><f eqn="prod @6 1 2 "></f><f eqn="prod @7 21600 pixelWidth "></f><f eqn="sum @8 21600 0 "></f><f eqn="prod @7 21600 pixelHeight "></f><f eqn="sum @10 21600 0 "></f></formulas><path gradientshapeok="t" o:connecttype="rect" o:extrusionok="f"></path><lock aspectratio="t" v:ext="edit"></lock></shapetype><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1025" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape><span lang="TH">เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจะต้องมีหมายเลขประจำเครื่อง ที่เรียกว่า </span>IP Address <span lang="TH">เพื่อเอาไว้อ้างอิงหรือติดต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย ซึ่ง </span>IP <span lang="TH">ในที่นี้ก็คือ </span>Internet Protocol <span lang="TH">ตัวเดียวกับใน </span>TCP/IP <span lang="TH">นั่นเอง</span> IP address <span lang="TH">ถูกจัดเป็นตัวเลขชุดหนึ่งขนาด </span>32 <span lang="TH">บิต ใน </span>1 <span lang="TH">ชุดนี้จะมีตัวเลขถูกแบ่งออกเป็น </span>4 <span lang="TH">ส่วน ส่วนละ </span>8 <span lang="TH">บิตเท่าๆ กัน เวลาเขียนก็แปลงให้เป็นเลขฐานสิบก่อนเพื่อความง่ายแล้วเขียนโดยคั่นแต่ละส่วนด้วยจุด</span> (.) <span lang="TH">ดังนั้นในตัวเลขแต่ละส่วนนี้จึงมีค่าได้ไม่เกิน </span>256 <span lang="TH">คือ ตั้งแต่ </span>0 <span lang="TH">จนถึง </span>255 <span lang="TH">เท่านั้น เช่น </span>IP address <span lang="TH">ของเครื่องคอมพิวเตอร์ของสถาบันราชภัฎสวนดุสิต คือ</span> 203.183.233.6 <span lang="TH">ซึ่ง </span>IP Address <span lang="TH">ชุดนี้จะใช้เป็นที่อยู่เพื่อติดต่อกับเครื่องพิวเตอร์อื่นๆ ในเครือข่าย</span></span></div><div class="MsoNormal"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">โดเมนเนม (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">Domain name system :DNS)</span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">เนื่องจากการติดต่อสื่อสารกันกันในระบบอินเทอร์เน็ตใช้โปรโตคอล </span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">TCP/IP <span lang="TH">เพื่อสื่อสารกัน โดยจะต้องมี </span>IP address <span lang="TH">ในการอ้างอิงเสมอ แต่ </span>IP address <span lang="TH">นี้ถึงแม้จะจัดแบ่งเป็นส่วนๆ แล้วก็ยังมีอุปสรรคในการที่ต้องจดจำ ถ้าเครื่องที่อยู่ในเครือข่ายมีจำนวนมากขึ้น การจดจำหมายเลข </span>IP <span lang="TH">ดูจะเป็นเรื่องยาก และอาจสับสนจำผิดได้ แนวทางแก้ปัญหาคือการตั้งชื่อหรือตัวอักษรขึ้นมาแทนที่ </span>IP address <span lang="TH">ซึ่งสะดวกในการจดจำมากกว่า เช่น </span>IP address <span lang="TH">คือ </span>203.183.233.6 <span lang="TH">แทนที่ด้วยชื่อ </span>dusit.ac.th <span lang="TH">ผู้ใช้งานสามารถ จดจำชื่อ </span>dusit.ac.th <span lang="TH">ได้ง่ายกว่า การจำตัวเลข</span></span></div><div class="MsoNormal"><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">โดเมนที่ได้รับความนิยมกันทั่วโลก ที่ถือว่าเป็นโดเมนสากล มีดังนี้ คือ</span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1026" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.com <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>commercial <span lang="TH">สำหรับธุรกิจ</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1027" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.edu <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>education <span lang="TH">สำหรับการศึกษา</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1028" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.int <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>International Organization <span lang="TH">สำหรับองค์กรนานาชาติ</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1029" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.org <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Organization <span lang="TH">สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1030" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.org <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Organization <span lang="TH">สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร</span></span></div><div class="MsoNormal"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">การขอจดทะเบียนโดเมน</span></b></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1031" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape><span lang="TH">การขอจดทะเบียนโดเมนต้องเข้าไปจะทะเบียนกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ ชื่อโดเมนที่ขอจดนั้นไม่สามารถซ้ำกับชื่อที่มีอยู่เดิม เราสามารถตรวจสอบได้ว่ามีชื่อโดเมนนั้นๆ หรือยังได้จากหน่วยงานที่เราจะเข้าไปจดทะเบียน</span></span></div><div class="MsoNormal"><b><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1032" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape><span lang="TH">การขอจดทะเบียนโดเมน มี </span>2 <span lang="TH">วิธี ด้วยกัน</span></span></b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> คือ</span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1033" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>1. <span lang="TH">การขอจดะเบียนให้เป็นโดเมนสากล (.</span>com .edu .int .org .net ) <span lang="TH">ต้องขอจดทะเบียนกับ </span>www.networksolution.com <span lang="TH">ซึ่งเดิม คือ </span><a href="http://www.internic.net/" style="color: blue; text-decoration: underline; text-underline: single;"><span style="color: windowtext; text-decoration: none;">www.internic.net</span></a></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1034" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>2. <span lang="TH">การขอทดทะเบียนที่ลงท้ายด้วย .</span>th (</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">Thailand</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">)<span lang="TH">ต้องจดทะเบียนกับ </span><a href="http://www.thnic.net/" style="color: blue; text-decoration: underline; text-underline: single;"><span style="color: windowtext; text-decoration: none;">www.thnic.net</span></a></span></div><div class="MsoNormal"><b><span lang="TH" style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">โดเมนเนมที่ลงท้าย ด้วย .</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">th <span lang="TH">ประกอบด้วย</span></span></b></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">ac.th <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Academic Thailand <span lang="TH">สำหรับสถานศึกษาในประเทศไทย</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1035" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.co.th <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Company Thailand <span lang="TH">สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจในประเทศไทย</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1036" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.go.th <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Government Thailand <span lang="TH">สำหรับหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1037" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.net.th <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Network </span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">Thailand</span><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"> <span lang="TH">สำหรับบริษัทที่ทำธุรกิจด้านเครือข่าย</span></span></div><div class="MsoNormal" style="text-indent: 36pt;"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;">.or.th <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Organization Thailand <span lang="TH">สำหรับหน่วยงานที่ไม่แสวงหากำไร</span></span></div><div class="MsoNormal"><span style="font-family: "Angsana New"; font-size: 16pt;"><shape alt="" coordsize="21600,21600" id="_x0000_s1038" style="height: 7.5pt; width: 37.5pt;" type="#_x0000_t75"><imagedata o:href="http://dusithost.dusit.ac.th/~librarian/it107/img/para.gif" src="page_4.files/image001.gif"></imagedata></shape>.in.th <span lang="TH">ย่อมาจาก </span>Individual Thailand <span lang="TH">สำหรับของบุคคลทั่วๆ ไป</span></span></div>นาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-1445017887928141662011-03-28T21:45:00.000-07:002011-03-28T21:45:26.890-07:00ที่มา internet<h2><span class="mw-headline" id=".E0.B8.97.E0.B8.B5.E0.B9.88.E0.B8.A1.E0.B8.B2"></span></h2>อินเทอร์เน็ตเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512) จากการเกิดเครือข่าย <a class="new" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=ARPANET&action=edit&redlink=1" title="ARPANET (หน้านี้ไม่มี)"><span style="color: black;">ARPANET</span></a><span style="color: black;"> (</span>Advanced Research Projects Agency NETwork) ซึ่งเป็นเครือข่ายสำนักงานโครงการวิจัยชั้นสูงของกระทรวงกลาโหม ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีวัตถุประสงค์หลักของการสร้างเครือข่ายคือ เพื่อให้คอมพิวเตอร์สามารถเชื่อมต่อ และมีปฏิสัมพันธ์กันได้ เครือข่าย ARPANET ถือเป็นเครือข่ายเริ่มแรก ซึ่งต่อมาได้ถูกพัฒนาให้เป็นเครือข่าย อินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน<br />
<h2><span class="mw-headline" id=".E0.B8.81.E0.B8.B2.E0.B8.A3.E0.B8.9B.E0.B8.A3.E0.B8.B0.E0.B8.A2.E0.B8.B8.E0.B8.81.E0.B8.95.E0.B9.8C.E0.B9.83.E0.B8.8A.E0.B9.89.E0.B8.87.E0.B8.B2.E0.B8.99.E0.B8.AD.E0.B8.B4.E0.B8.99.E0.B9.80.E0.B8.97.E0.B8.AD.E0.B8.A3.E0.B9.8C.E0.B9.80.E0.B8.99.E0.B9.87.E0.B8.95">การประยุกต์ใช้งานอินเทอร์เน็ต</span></h2>การประยุกต์ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันทำได้หลากหลาย อาทิเช่น ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล์ (e-Mail) , สนทนา (Chat), อ่านหรือแสดงความคิดเห็นในเว็บบอร์ด, การติดตามข่าวสาร, การสืบค้นข้อมูล / การค้นหาข้อมูล, การชม หรือซื้อสินค้าออนไลน์ , การดาวโหลด เกม เพลง ไฟล์ข้อมูล ฯลฯ, การติดตามข้อมูล ภาพยนตร์ รายการบันเทิงต่างๆ ออนไลน์, การเล่นเกมคอมพิวเตอร์ออนไลน์, การเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning), การประชุมทางไกลผ่านอินเทอร์เน็ต (Video Conference), โทรศัพท์ผ่านอินเทอร์เน็ต (VoIP), การอับโหลดข้อมูล หรือ อื่นๆ<br />
แนวโน้มล่าสุดของการใช้อินเทอร์เน็ตคือการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์เพื่อสร้างสังคมออนไลน์ (<a class="new" href="http://www.blogger.com/w/index.php?title=Social_Network&action=edit&redlink=1" title="Social Network (หน้านี้ไม่มี)"><span style="color: #ba0000;">Social Network</span></a>) ซึ่งพบว่าปัจจุบันเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมดังกล่าวกำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น <a class="mw-redirect" href="http://www.blogger.com/wiki/Facebook" title="Facebook"><span style="color: #0645ad;">facebook</span></a>, <a class="mw-redirect" href="http://www.blogger.com/wiki/Twitter" title="Twitter"><span style="color: #0645ad;">twitter</span></a>, <a class="mw-redirect" href="http://www.blogger.com/wiki/Hi5" title="Hi5"><span style="color: #0645ad;">hi5</span></a> และการใช้เริ่มมีการแพร่ขยายเข้าไปสู่การใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือ (Mobile Internet) มากขึ้น เนื่องจากเทคโนโลยีปัจจุบันสนับสนุนให้การเข้าถึงเครือข่ายผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้ง่ายขึ้นมากนาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-25695220127032308512011-03-28T20:52:00.001-07:002011-03-28T20:52:52.625-07:00ตารางปฎิทิน<iframe src="https://www.google.com/calendar/embed?src=totoh0833344099%40gmail.com&ctz=Asia/Bangkok" style="border: 0" width="400" height="300" frameborder="0" scrolling="no"></iframe>นาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-3031714665505845866.post-56406022042724886062011-03-28T00:45:00.000-07:002011-03-28T00:45:15.869-07:00เกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตครับ<strong>ภัยอินเตอร์เน็ต</strong> ทุกคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสิ่งใดก็ตามที่ได้คุณประโยชน์ก็ย่อมจะมีโทษในตัวมันเองสังคมมนุษย์ก็เช่นกันย่อมมีทั้งคนดีและคนเลวปะปนกันไป อินเตอร์เน็ตถือได้ว่า เป็นสังคมมนุษย์หนึ่งจากเกิดขึ้นจากความพยายามที่จะติดต่อสื่อสารกันของมนุษย์โดยอาศัยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกลางแทนที่จะเป็นคำพูด ท่าท่าง ฯลฯ แต่อินเตอร์เน็ตเป็นสังคมของคนทั้งโลกที่ไร้พรมแดน (Globalization)<br />
ไม่แบ่งชั้นวรรณะย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีสิ่งไม่ดีสิ่งที่เป็นภัยแอบแผงอยู่มาก รวมทั้งคนเลวซึ่งได้แก่บรรดามิจฉาชีพ อาชญากรรม (แบบไฮเทค) ได้อาศัยอินเตอร์เน็ต เป้นที่แผงตัวและหากินบนความทุกข์ของผู้อื่น ขอเสนอมุมมองเรื่องราวอินเตอร์เน็ตในแง่ลบเพื่อเป็นอุทธาหรณ์สำหรับผู้เล่นเน็ตอยู่จะได้ระแวดระวังและไม่ตกเป็นเหยื่อของโจรไฮเทคเหล่านี้<br />
หลายคนคงทราบว่าในอินเตอร์เน็ตมีสิ่งยั่วยุกามารมณ์ที่ส่อไปในทางลามกอนาจารอยู่มาก ถึงแม้จะไม่มีผลเสียที่เกี่ยวข้องกับเราโดยตรง แต่ก็มีผลทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก ๆ ที่เป็นลูกหลานของเรา ต้องยอมรับว่ากว่า 50 % ของผู้ชายที่เริ่มใช้อินเตอร์เน็ตในครั้งแรก ๆ มักจะไปท่องหาเว็บที่มีภาพนู้ด ภาพโป้ต่าง ๆ ซึ่งถ้าเป็นการใช้เครื่องที่บ้าน ที่มีลูกหลานกำลังเรียนรู้และพัฒนาทางด้านคอมพิวเตอร์ ก็อาจจะไปเข้าเว็บไซต์เหล่านั้น โดยไม่รู้ตัว เพราะซอฟต์แวร์หรือโปรแกรมที่ใช้ในการท่องเว็บจะมีการเก็บบันทึกหมายเลขที่อยู่ของเว็บไซต์ (URL – address) เพื่อความสะดวกในการเข้าสู่เว็บไซต์นั้นในครั้งต่อไป<br />
ซึ่งหมายเลขที่อยู่นี้สามารถถูกเรียกกลับขึ้นมาใช้ได้ง่าย ๆ เด็ก ๆ อาจจะเผลอไปเรียกเข้าก็จะเข้าสู่เว็บไซต์ได้ทันที และอาจจะกลับไปดูซ้ำในครั้งต่อ ๆ ไป หากผู้ปกครองละเลยนาน ๆ เข้าภาพเหล่านี้จะถูกปลูกฝังในความคิด ทำให้เด็กอาจมีพฤติกรรมการแสดงออกทางเทศกับเพศตรงข้ามที่ส่อไปในทางที่ผิดและอาจเลยไปถึงกระทำความผิดอาญาได้เมื่อโตขึ้น ภัยประเภทนี้ผลเสียจึงเกิดขึ้นในทางอ้อมโดยจะตกอยู่กับเด็กซึ่งเป็นลูกหลานและครอบครัวนาย จิระวัฒน์ กฤษณาhttp://www.blogger.com/profile/06307804237726390839noreply@blogger.com0